ปัญหาที่พบบ่อยเมื่อเทคอนกรีตผสมเสร็จ และวิธีป้องกัน

บทนำ ในงานก่อสร้างทุกประเภท คอนกรีตผสมเสร็จถือเป็นวัสดุหลักที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อความมั่นคง แข็งแรง และอายุการใช้งานของโครงสร้าง การเลือกใช้คอนกรีตผสมเสร็จที่ได้คุณภาพจากแหล่งผลิตที่เชื่อถือได้ เช่น SKC Concrete เป็นปัจจัยพื้นฐานที่ช่วยลดความเสี่ยงจากปัญหาที่อาจเกิดขึ้น แต่แม้จะใช้คอนกรีตคุณภาพดี ปัญหาที่เกี่ยวกับขั้นตอนการเท การจัดการหน้างาน และสภาพแวดล้อมก็ยังคงสามารถเกิดขึ้นได้หากไม่มีการเตรียมความพร้อมและปฏิบัติอย่างถูกต้อง

บทความนี้จะกล่าวถึงปัญหาที่พบบ่อยในการเทคอนกรีตผสมเสร็จ พร้อมแนวทางป้องกันที่แนะนำ โดยอ้างอิงจากมาตรฐานงานก่อสร้าง และประสบการณ์ในภาคสนามของผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมคอนกรีต

ปัญหาที่พบบ่อยในการเทคอนกรีตผสมเสร็จ

1. คอนกรีตแยกชั้น (Segregation)

คำอธิบาย: เกิดจากส่วนผสมของคอนกรีตแยกตัวกัน เช่น น้ำปูนไหลไปด้านล่าง ขณะที่หินหรือทรายลอยขึ้นด้านบน ส่งผลให้ความสม่ำเสมอของคอนกรีตเสียไป

สาเหตุ:

• การปล่อยคอนกรีตจากที่สูงโดยไม่ใช้รางเท
• การสั่นคอนกรีตมากเกินไป
• ส่วนผสมไม่สมดุล เช่น มีน้ำมากเกินไป

วิธีป้องกัน:

• ใช้รางหรือท่อลดระดับการเท
• เทเป็นชั้น ๆ และสั่นให้พอดี
• ควบคุมการออกแบบส่วนผสมให้เหมาะสมกับลักษณะการใช้งาน

2. คอนกรีตแข็งตัวเร็วเกินไป (Premature Setting)

คำอธิบาย: คอนกรีตเริ่มแข็งตัวระหว่างขนส่ง หรือก่อนที่งานเทจะเสร็จ

สาเหตุ:

• ใช้คอนกรีตในวันที่อุณหภูมิสูงมาก
• ใช้เวลาขนส่งนานเกินไป
• ไม่ได้ใช้น้ำยาหน่วงเวลาการแข็งตัว (Retarder)

วิธีป้องกัน:

• เลือกใช้คอนกรีตชนิดแห้งช้า (Retarded Concrete) จากผู้ผลิตที่เชื่อถือได้
• วางแผนขนส่งให้เหมาะสมกับระยะทาง
• เตรียมหน้างานให้พร้อมก่อนคอนกรีตมาถึง

3. การแตกร้าวของคอนกรีต (Cracking)

คำอธิบาย: คอนกรีตเกิดรอยร้าวทั้งแนวยาว แนวขวาง หรือแบบสุ่ม ซึ่งอาจส่งผลต่อความแข็งแรงและการซึมของน้ำ

สาเหตุ:

• การหดตัวเนื่องจากการแห้งตัวเร็ว (Plastic Shrinkage)
• การใช้น้ำมากเกินไปในการผสม
• การไม่มีการบ่มคอนกรีตอย่างเหมาะสม

วิธีป้องกัน:

• ใช้น้ำในปริมาณที่เหมาะสม
• บ่มคอนกรีตทันทีภายใน 30 นาทีหลังเทเสร็จ เช่น ใช้พลาสติกคลุม หรือพ่นน้ำ
• หลีกเลี่ยงการเทคอนกรีตในช่วงที่อุณหภูมิสูงเกินไป

4. คอนกรีตไม่แน่นตัว (Honeycombing)

คำอธิบาย: เกิดโพรงภายในคอนกรีต คล้ายรังผึ้ง ส่งผลให้ความแข็งแรงลดลงและโครงสร้างเสี่ยงต่อการซึมน้ำ

สาเหตุ:

• ไม่ได้สั่นคอนกรีต หรือสั่นไม่ทั่วถึง
• มีเหล็กเสริมมากเกินไปจนเทคอนกรีตไม่ทั่วถึง
• การออกแบบส่วนผสมหยาบเกินไป

วิธีป้องกัน:

• ใช้เครื่องสั่นคอนกรีตอย่างมีประสิทธิภาพ
• ออกแบบแบบหล่อให้เทคอนกรีตเข้าได้ง่าย
• ปรับส่วนผสมให้สามารถไหลตัวได้ดีโดยไม่แยกชั้น

5. คอนกรีตไม่ยึดเกาะกับเหล็กเสริม

คำอธิบาย: ส่งผลให้แรงยึดเกาะระหว่างคอนกรีตกับเหล็กเสริมลดลง ทำให้ความแข็งแรงโดยรวมลดลง

สาเหตุ:

• เหล็กเสริมเปื้อนน้ำมันหรือสนิม
• เทคอนกรีตช้าเกินไปหลังวางเหล็ก

วิธีป้องกัน:

• ทำความสะอาดเหล็กก่อนเทคอนกรีต
• วางเหล็กเสริมให้ถูกต้องตามแบบวิศวกรรม และเทคอนกรีตทันทีหลังจากวางเสร็จ

6. คอนกรีตไม่เรียบ / ผิวหน้าไม่สวย

คำอธิบาย: ผิวคอนกรีตไม่เรียบ สาก มีรูพรุน ซึ่งอาจกระทบต่อความสวยงามหรือลักษณะผิวสัมผัส

สาเหตุ

• การปรับระดับที่ไม่ดี
• ไม่ได้ใช้เกรียงขัดผิวหน้าหรือใช้ไม่ถูกวิธี

วิธีป้องกัน:

• ใช้เครื่องมือตบปรับระดับ
• ขัดผิวคอนกรีตทันทีที่เริ่มตั้งตัว

การวางแผนและจัดการหน้างานเพื่อป้องกันปัญหา

1. การประเมินพื้นที่หน้างาน

• ตรวจสอบความพร้อมของแบบหล่อ พื้นที่จอดรถปูน และการเข้าถึงของรถเทคอนกรีต

2. การสื่อสารกับแพล้นคอนกรีต

• แจ้งระยะทางจากแพล้นถึงหน้างาน ลักษณะโครงการ และประเภทคอนกรีตที่ต้องการ
• เลือกคอนกรีตที่เหมาะกับหน้างาน เช่น คอนกรีตแห้งช้า หรือคอนกรีตไหลดีพิเศษ (High Flow)

3. การจัดคนทำงานและเครื่องมือให้พร้อม

• จัดทีมงานรับคอนกรีตให้พร้อมทันทีที่รถถึงหน้างาน
• เตรียมเครื่องสั่นคอนกรีต เกรียงขัด เครื่องพ่นน้ำ และอุปกรณ์บ่มคอนกรีต

4. การควบคุมคุณภาพหลังเท

• ตรวจสอบความหนาแน่น การไหลตัว และความสม่ำเสมอของคอนกรีต
• วางแผนการบ่มอย่างเป็นระบบ เพื่อให้คอนกรีตได้กำลังอัดตามที่ออกแบบ

สรุป

ปัญหาที่พบบ่อยในการเทคอนกรีตผสมเสร็จสามารถป้องกันได้ หากมีการวางแผนที่ดี และใช้วัสดุคุณภาพจากผู้ผลิตที่เชื่อถือได้อย่างสกุลชัยคอนกรีต ที่ให้บริการคอนกรีตผสมเสร็จหลากหลายชนิด พร้อมคำแนะนำจากวิศวกรและทีมงานมืออาชีพ ช่วยให้โครงการของคุณมีความปลอดภัย แข็งแรง และสำเร็จตามแผน